บทที่9

การเขียนโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลด้วยวีบีเอ

การใช้งานแมโคร

     แมโคร คือกลุ่มของแอคชั่นหนึ่งกลุ่ม หรือมากกว่านั้น โดยที่แต่ละกลุ่มแสดงการปฏิบัติงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเปิดฟอร์ม หรือการพิมพ์รายงาน แมโคร สามารถช่วยเราฏิบัติงานง่าย ๆ โดยอัตโนมัติตัวอย่าง เช่น เราสามารถปฏิบัติงานแมโครที่พิมพ์รายงาน เมื่อผู้ใช้คลิกที่ Command Button

     แมโครสามารถเป็นแมโครเดียวที่ประกอบด้วยแอคชั่นต่อเนื่อง หรือสามารถเป็นกลุ่มแมโคร นอกจากนี้เรายังสามารถใช้นิพจน์เงื่อนไขในการตัดสินว่า ในบางกรณีแอคชั่นจะเกิดขึ้นเมื่อแมโครทำงานหรือไม่

     โครงสร้าง และการทำงานของแมโครจะแตกต่างจากการเขียนโปรแกรมที่พัฒนาจาก VBA เนื่องจากการทำงานของแมโครจะทำงานตามลำดับขั้น ตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขึ้นสุดท้ายตามลำดับ จะไม่มีการกระโดดไปทำงานใน Routine ใด ๆ ก่อน ซึ่งเป็นผลให้แมโครเหมาะกับโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก และมีการทำงานที่ไม่ซับซ้อนนัก แต่อย่างไรก็ดี แมโครสามารถช่วยสร้างแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม ให้ยุ่งยาก



1. การสร้างแมโคร

        1. ให้ทำการเปิดไฟล์ฐานข้อมูลข้อมูลทั่วไป.MDB ขึ้นมาซึ่งเป้นไฟล์ฐานข้อมูลที่สร้างจากบทที่แล้วเลือกที่มุมมอง
        2. คลิกเลือกที่ไอคอน



         3. จะปรากฏจอภาพมุมมองออกแบบของแมโครพร้อมกับเมนู และทูลบาร์ของแมโคร ดังรูป


       จากรูปจะสังเกตเห็นว่าในมุมมองออกแบบของแมโครประกอบด้วย 3 ส่วนคือ

       แอคชั่น ใช้สำหรับกำหนดคำสั่งต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามที่เราต้องการ โดยในแมโครหนึ่ง ๆ สามารถกำหนดได้หลายคำสั่ง เพื่รวมเป็นหนึ่งแมโคร โดยแมโครจะทำงานตามลำดับขึ้นทีละคำสั่งตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย

       คำอธิบาย ใช้สำหรับอธิบายคำสั่งต่าง ๆ ที่เรากำหนดไปเพื่อความเข้าใจของผู้เขียนโปรแกรมเอง

       อาร์กิวเมนต์แอคชั่น ใช้ในการกำหนดค่าต่าง ๆ ที่แอคชั่นนั้น ๆ ต้องการในกากรทำงาน



2. การกำหนดแอคชั่นให้กับแมโคร

       1. เมื่อต้องการกำหนดแอคชั่นให้กับแมโคร ให้ทำการเลือกในส่วนของแอคชั่นในมุมมุงออกแบบดังรูป

       2. ทำการเลือกแอคชั่นที่ต้องการ โดยให้ทดลองเลือกที่แอคชั่น OpenForm หลังจากที่เลือกแอคชั่นแล้วจะสังเกตเห็นว่าในส่วนของอาร์กิวเมนต์แอคชั่นจะปรากฏขึ้นมาดังรูป




      3. อาร์กิวเมนต์แอคชั่นที่ปรากฏขึ้นจะประกอบด้วยค่าต่าง ๆ ที่แอคชั่นนั้น ๆ ต้องการในการทำงาน เช่น เมื่อเราเลือกแอคชั่น OpenForm ก็ต้องกำหนดค่าอาร์กิวเมนต์แอคชั่นให้แมโครรู้ว่าต้องการ OpenForm อะไร อย่างไร ซึ่งให้เรากำหนดค่าของอาร์กิวเมนต์แอคชั่นดังรูป


จากรูปจะเป็นการกำหนดค่าอาร์กิวเมนต์แอคชั่นให้ทำคำสั่งดังนี้

           เปิดฟอร์มชื่อ     Form1

           ในมุมมอง          Form

           โหมดข้อมูล       Read Only


โหมดหน้าต่าง Noral

        4. เมื่อทำการกำหนดค่าต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการบันทึกแมโคร โดยการคลิกที่ปุ่ม ในทูลบาร์และตั้งชื่อเป็น Openform หลังจากนั้นคลิกปุ่ม

       5. เมื่อทำการบันทึกเรียบร้อยแล้วให้ทำการ Run แมโคร โดยการคลิกที่ปุ่ม ในทูลบาร์

      6. จะปรากฏฟอร์มชื่อ Form company ขึ้นมาทันที

2.1 รายละเอียดของแอคชั่นแต่ละประเภทที่จำเป็น

      แมโคร ของ Access 2003 ได้แบ่งเป็นหลายประเภทดังนี้


1. การเปิด – ปิด เพจ, ฟอร์ม, โมดูล, แบบสอบถาม, รายงาน, ตาราง

แอคชั่น
คำอธิบาย
OpenDataAccessPage
เปิดเพจที่กำหนด  สามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
OpenForm
เปิดฟอร์มที่กำหนด สามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
OpenModule
เปิดโมดูลที่กำหนด
OpenQuery
เปิดแบบสอบถามที่กำหนด  สามารถกำหนดมุมมอง และโหมดข้อมูลได้
OpenReport
เปิดรายงานที่กำหนด  และสามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
OpenTable
เปิดตารางที่กำหนด  และสามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
Close
ใช้ปิดหน้าต่างที่กำลังทำงานอยู่หรือหน้าต่างที่กำหนดจาก
อาร์กิวเมนต์แอคชั่น


2. การเรียกใช้งาน และหยุดการทำงานของแมโคร


แอคชั่น
คำอธิบาย
RunMacro
ใช้ในการเรียก  Run  แมโครที่ต้องการโดยเมื่อ  Run  แมโคร  ที่กำหนดเสร็จแล้วจะกลับมาทำแมโครในลำดับต่อไป
StopMacro
ใช้ในการหยุดแมโครที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้น
StopAllMacro
หยุดการทำงานของแมโครทั้งหมด

3. การค้นหาข้อมูล

แอคชั่น
คำอธิบาย
FindNext
ใช้ในการค้นหาเรคคอร์ดถัดไปจากเรคคอร์ดแรก
FindRecord
ใช้ในการค้นหาเรคคอร์ด
GoToRecord
ใช้ในการกระโดดไปยังเรคคอร์ดที่ต้องการ  ซึ่งตำแหน่งที่ต้องการกระโดดไปในอาร์กิวเมนต์แอคชั่น
ApplyFilter
ใช้ในการแสดงข้อมูลตามฟิลด์เตอร์ที่กำหนด

4. การควบคุมการแสดงผลทางหน้าจอ

แอคชั่น
คำอธิบาย
Beep
ใช้ส่งเสียงเตือนผู้ใช้ในกรณีที่ต้องการเตือนด้วยเหตุผลต่าง ๆ
GotoControl
ให้โฟกัสไปยังคอนโทรลที่เลือก
GotoPage
ไปยังหน้าจอที่กำหนด
Hourglass
ให้แสดง mouse pointer  เป็นรูปนาฬิกาทรายในขณะที่กำลัง Run  แมโคร
MsgBox
แสดงไดอะล็อกบ็อกซ์ตามข้อความที่กำหนด
Maximize
ขยายหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ให้เต็มจอ
Minimize
ย่อหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ให้เต็มจอ
MoveSize
กำหนดขนาดของหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
Restore
ทำให้หน้าต่างที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันมีขนาดเท่าเดิม
ShowAllRecords
ให้แสดงเรคคอร์ดทั้งหมด
ShowToolbar
ให้แสดงทูลบาร์  หรือซ่อนทูลบาร์ที่ต้องการ

5. การนำเข้าข้อมูลจากภายนอก และส่งออก

แอคชั่น
คำอธิบาย
TransferDatabase
ใช้ในการนำเข้าข้อมูลจากภายนอก และส่งออกสู่ภายนอกเช่น  FoxPro
TransferSpreadsheet
ใช้ในการนำเข้าและส่งออกฐานข้อมูลในรูปแบบไฟล์ของโปรแกรมอื่น ๆ
TransferText
ใช้ในการนำเข้า  และส่งออกข้อมูลในรูปแบบไฟล์ที่กำหนด

6. การใช้งานอื่น ๆ

แอคชั่น
คำอธิบาย
Rename
ใช้เปลี่ยนชื่อ  Object  ในฐานข้อมูลที่ใช้อยู่
CopyObject
ใช้ทำสำเนา  Object  ที่ต้องการในฐานข้อมูลเดิม  หรือฐานข้อมูลอื่น
DeleteObject
ใช้ลบ  Object ที่ต้องการในฐานข้อมูลเดิม  หรือฐานข้อมูลอื่น
RunApp
ใช้ในการเรียกใช้งาน  แอพลิเคชั่นอื่น ๆ เช่น  Calculator,  Paintbrush  เป็นต้น
PrintOut
ใช้ในการสั่งพิมพ์  ตารางรายงานแบบสอบถามหรือฟอร์มซึ่งสามารถกำหนดช่วย  หรือหน้าที่ต้องการพิมพ์ได้
OutputTo
ใช้ในการส่ง  ตารางรายงาน,  แบบสอบถามฟอร์มเพจ, หรือโมดูล  ออกภายนอกในรูปแบบของไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งกำหนดรูปแบบของไฟล์ได้ที่อาร์กิวเมนต์แอคชั่น
AddMenu
ใช้ในการทำเมนูให้แมโคร
Quit
ออกจากโปรแกรม  Access  2003

3. การกำหนดเงื่อนไข (Condition) ของแมโคร


   การกำหนดแอคชั่นขึ้นในแมโครในแต่ละครั้ง ในบางครั้งจำเป็นต้องมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อประกอบการทำงานของแอคชั่นนั้น ๆ ให้สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งในการกำหนดเงื่อนไข หรือ Condition สามารถทำได้ดังนี้ 


   สมมุติว่าเราต้องการสร้างแมโครที่ใช้ในการเปิดฟอร์ม Form Company ขึ้นมาใช้งานโดยมีเงือนไขว่าผู้ใช้ต้องป้อนรหัสทีกำหนดให้ถูกต้องจึงจะสามารถใช้งานได้ สามารถทำได้ดังนี้

        1. สร้างแมโครใหม่ขึ้นมา แล้วคลิกที่ปุ่ม บนทูลบาร์จะปรากกฎส่วนของเงื่อนไขออกมาในมุมมองออกแบบของการสร้างแมโคร 


        2. คลิกที่บรรทัดแรกเงื่อนไข แล้วตั้งเงือนไขดังนี้ InputBox (“กรุณาป้อนรหัส”) <> “220072” หรือเพื่อวามสะดวกในการพิมพ์เงื่อนไขให้กดปุ่ม Shift + F2 จะปรากฏหน้าต่างในการตั้งเงื่อนไขดังนี้ 

        3. หลังจากนั้นคลิกปุ่มซึ่งเงือนไขนี้หมายความว่า รหัสที่ต้องการคือ 220072 

        4. ทำการเลือกแอคชั่น MsgBox แล้วกำหนดค่าในอาร์กิวเมนต์แอคชั่นดังนี้ 

        5. พิมพ์ “…” ลงในเงื่อนไขและกำหนดแอคชั่น StopMacro ในบรรทัดถัดไปดังนี้ 

        6. เลือกแอคชั่น OpenForm ในบรรทัดถัดไปแล้วกำหนดค่าในอาร์?กิวเมนต์แอคชั่นดังนี้ 

        7. ทำการบันทึก แมโครเป็นชื่อ Open Form_by_Macro 

        8. ทำการ Run โปรแกรมจะปรากฏจอภาพดังนี้ 

        9. ถ้าป้อนรหัสผิด หรือมาป้อนรหัสจะปรากฏดังนี้ 

       10. ทำการ Run โปรแกรมใหม่อีกครั้งแล้วป้อนรหัสที่ถูกต้อง คือ 220072 โปรแกรมก็จะทำการเปิดฟอร์ม Form company โดยอัตโนมัติดังรูป


ตัวอย่างของเงือนไขแมโคร

ใช้นิพจน์นี้
เพื่อทำแอคชั่นถ้า
[City]=”Paris”       Paris
DCount(“[OrderlD]”,”Order”)>35
Paris เป็นค่าของ City ในเขตข้อมูลบนฟอร์ม ที่แมโครถูกเรียกใช้มีรายการ 35 รายการ หรือมากกว่าในเขตข้อมูล OrderID ของตาราง Orders
DCount(“*”,”Order Details”,
“[OrderID]=Forms![Orders]!
[OrderID]”)>3
มีรายการมากกว่า 3 รายการในตาราง Order  Details ที่มีเขตข้อมูล OrderIDของตางรางตรงกับเขต ข้อมูล OrderID บนฟอร์ม Orders
[ShippedDate] Between
#2-Feb-1995#And
#2-Mar-1995#
ค่าของเขตข้อมูล ShippedDate บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้ที่ไม่ใช่ค่าก่อน 2-Feb-1995 และไม่ใช่ค่าหลังจาก 2-Mar-1995
Forms![Products]!UnitslnStock]<5
ค่าของเขตข้อมูล UnitsInStock บนฟอร์ม Products ที่มีค่าน้อยกว่า 5
IsNull([FidrstName])
ค่า FirstName บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้เป็น Null นิพจน์นี้จะเหมือนกับ [FirstName] Is Null
[Country]=”UK”And Forms!
[Sales Totals]![TotalOrds]>100
ค่าในเขตข้อมูล Country บนฟอร์ม ที่แมโครถูกเรียกใช้ เป็น UK และค่าของเขตข้อมูล TotalOrds บนฟอร์ม Sales Totals มากกว่า 100
[Country]In
(“France”,”Italy”,”Spain”)
And Len([PostalCode])<>5
ค่าในเขตข้อมูล Country บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้เป็น France,Italy หรือ Spain และรหัสไปรษณีย์มีความยาวไม่เกิน 5 อักขระ
MsgBox(“Confirm changes?”,1)=
คุณคลิก ตกลง ในกล่องโต้ตอบที่ฟังก์ชั่น MsgBox แสดง ถ้าคุณคลิก ยกเลิก ในกล่องโต้ตอบ Microsoft Access จะเลิกทำแอคชั่นนั้น

4.การเขียนโปรแกรมใช้งานจริงกับแมโคร


    ใน Microsoft Access เราสามารถทำงานมากมายให้สำเร็จได้ด้วยการใช้ แมโคร หรือ Visual Basic ดังนั้นในงานเดียวกันจึงต้องพิจารณาว่าจะเลือกใช้แมโครหรือว่า Visual Basic ซึ่ง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการจะทำ


   แมโครเป็นวิธีที่ง่ายในการดูแลรายละเอียดง่าย ๆ เช่น การเปิดและปิดฟอร์ม การแสดง และซ่อนแถบเครื่องมือ และการเรียกใช้รายงาน เราสามารถผูกเข้าด้วยกันกับตาราง แบบสอบถาม ฟอร์ม รายงาน ที่เราสร้าง ขึ้นได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว 

   เนื่องจากมีไวยากรณ์เล็กน้อยที่ต้องจดจำ นอกจากความง่ายในการใช้งานที่แมโครมีให้แล้ว เราต้องใช้แมโครเพื่อการทำการกำหนดคีย์ หรือการปฏิบัติแอคชั่นต่าง ๆ ให้สำเร็จเมื่อเปิดฐานข้อมูลครั้งแรก เช่น การเปิดฟอร์ม หรือ Run แมโครที่ต้องกา

การทำการกำหนดคีย์

   เราสามารถกำหนด แอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นให้กับแป้นพิเศษ หรือแป้นร่วมด้วยการสร้างกลุ่ม แมโคร AutoKeys ได้เมื่อใดที่คุณกดแป้น หรือแป้นร่วม Microsoft Access จะปฏิบัติแอคชั่นตามที่เรากำหนดได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 

       1. ในหน้าต่างฐานข้อมูลในมุมมองแมโครคลิกปุ่ม 
       2. ในมุมมองการออกแบบแมโคร ให้คลิกที่ชื่อแมโครแถบเครื่องมือ 

       3. ในคอลัมน์ ชื่อแมโคร พิมพ์แป้น หรือแป้นร่วมที่ต้องการกำหนดแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่น สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแป้นร่วมที่เราสามารถใช้ในการกำหนดแป้นได้มีดังนี้



ตารางแสดงแป้นพิมพ์พร้อมกัน ซึ่งใช้สร้างการกำหนดแป้นพิมพ์ในกลุ่มแมโคร AutoKeys

ไวยากรณ์ของ SendKeys
การกดแป้นพิมพ์พร้อมกัน
^A หรือ^4
CTRL+อักษรใด ๆหรือแป้นตัวเลข
{F1}
แป้นฟังก์ชั่นใด ๆ
^{F1}
CTRL+ เป็นฟังก์ชั่นใด ๆ
+{F1}
SHIFT+ เป็นฟังก์ชั่นใด ๆ
{INSERT}
INS
^{INSERT}
CTRL+INS
+{INSERT}
SHIFT+INS
{DELETE} หรือ {DEL}
DEL
^{DELETE} หรือ ^{DEL}
CTRL+DEL
+{DELETE} หรือ +{DEL}
SHIFT+DEL


      4. เราสามารถเพิ่มแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นที่คุณต้องการให้แป้น หรือแป้นร่วมปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น เราสามารถเพิ่มแอคชั่น OpenTable ที่เรียกใช้ตาราง Company เมื่อกด CTRL+T ได้ 

       ** ทำขั้นตอน 3และ4 ซ้ำสำหรับการกำหนดแป้นใด ๆ ที่เราต้องการทำ 

       5. บันทึกกลุ่มแมโครด้วยชื่อ AutoKeys

      การกำหนดแป้นใหม่จะมีผลทันทีเมื่อเราบันทึกกลุ่มแมโคร และทุกครั้งที่เปิด ฐานข้อมูล หลังจากนั้นทดลองเปิดหน้าต่างฐานข้อมูล ในมุมมองใด ๆ แล้วทำการกดปุ่ม CTRL+T โปรแกรมจะทำการเปิดตาราง Company ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ 


      หมายเหตุ ถ้าเรากำหนดชุดของแอคชั่นให้กับแป้นร่วมที่ถูกใช้อยู่แล้วโดย Access (ตัวอย่าง เช่น CTRL+C เป็นแป้นร่วมสำหรับคัดลอก) แอคชั่นที่คุณกำหนดแป้นร่วมนี้จะแทนที่การกำหนดแป้นของ Access

การดำเนินการแอคชั่นเมื่อฐานข้อมูลเปิดขึ้นมาครั้งแรก


   เราสามารถใช้แมโครพิเศษที่ชื่อ AutoExec เพื่อดำเนินงานแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นเมื่อเปิดฐานข้อมูลเป็นครั้งแรก Microsoft Access จะหาแมโครที่มีชื่อนี้ และถ้าหากพบแมโครนี้จะถูกเรียกใช้โดยอัตโนมัติ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 


      1. ในหน้าต่างฐานข้อมูลในมุมมองแมโครคลิกสร้างแมโครขึ้นมาใหม่ และกำหนดแอคชั่นดังนี้ 

      2. บันทึกแมโครด้วยชื่อ AutoExec 

      3. ในครั้งต่อไปที่เราทำการเปิดฐานข้อมูล Access จะเรียกใช้แมโครนี้โดยอัตโนมัติ

หมายเหตุ ถ้าไม่ต้องการเรียกใช้แมโคร AutoExec เมื่อคุณเปิดฐานข้อมูล ให้กดแป้น SHIFT ค้างไว้ เมื่อเปิดฐานข้อมูล และยังสามารถควบคุมการเริ่มต้นของฐานข้อมูล หรือโปรแกรมประยุกต์โดยการตั้งค่าตัวเลือกในเมนู เครื่องมือ=>เริ่มต้น

5.การเปลี่ยน Macro ให้เป็น VBA Code

   เนื่องจาก แมโคร (Macro) เป็นชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมประเภทหนึ่งที่ถูก พัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกขึ้นใน Microsoft Access ดังนั้นแมโครจึงเป็นเหมือนโปรแกรมย่อย ๆ หรือฟังก์ชั่น ๆ หนึ่งที่พร้อมจะถูกเรียกใช้งานได้ทันที่ต้องการ ดังนั้นในแอคชั่นใด ๆ ของแมโครจึงประกอบด้วย Code ต่าง ๆ ซึ่งนำมาเขียนรวมกันจนเป็นแอคชั่นต่าง ๆ ในแมโครและ Microsoft Access ก็มีวิธีแปลงแมโครเป็น VBA Code โดย VBA Code ที่ได้ก็จะมีผลการทำงานของ Code เช่นเดียวกับ แมโคร หรือแอคชั่นนั้น ๆ โดยวิธีการแปลงแมโครเป็น VBA Code นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1.


      1. เปิดแมโครชื่อ OpenForm จากหัวข้อที่แล้วขึ้นมา หรือจากที่อื่นก็ได้ เสร็จแล้วเลือกที่เมนู แฟ้ม > บันทึกแฟ้มเป็น จะได้ดังนี้หน้าต่างของบันทึกเป็นขึ้นมา ดังรูป 

       2. ให้ทำการเลือกเป็นโมดูล 

       3. คลิกที่ปุ่มตกลง ดังรูป 

       4. จะขึ้นหน้าต่าง แปลงแมโคร :Openform_by-Macro ให้คลิกที่ปุ่ม 

       5. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโครเป็น Visual Basic ซึ่งจะบอกว่าการแปลงเสร็จเรียบร้อยให้คลิกที่ปุ่ม 

       6. ที่มุมมองฐานข้อมูลคลิกที่มุมมอง จะปรากฏโมดูลขึ้นมาชื่อว่า “แมโครที่ถูกแปลง Openform” 

       7. จะปรากฏจอภาพ ดังนี้

วิธีที่ 2.


       1. เปิดแมฌครชื่อ Openform จากหัวข้อที่แล้วขึ้นมาหรือจากที่อื่นก็ได้ เสร็จแล้วเลือกที่เมนูเครื่องมือ > แมโคร>แปลงแมโครเป็น Visual Basic 

        2. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโคร :Openform ให้คลิกที่ปุ่ม 

        3. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโครเป็น Visual Basic ซึ่งจะบอกว่าการแปลงเสร็จเรียบร้อย ให้คลิกที่ปุ่ม 

        4. จะปรากฏจอภาพดังนี้ 

        5. ที่มุมมองฐานข้อมูลคลิกที่มุมมอง จะปรากฏโมดูลขึ้นมาชื่อว่า “แมโครที่ถูกแปลง Openform” 

        สรุปแล้วแมโครจึงเป็นเหมือนกับโปรแกรมเล็ก ๆ โปรแกรมหนึ่งซึ่ง Code ของ โปรแกรม ในคำสั่งต่าง ๆ นั้นถูกแยกไว้ในแอคชั่นต่าง ๆ ที่กำหนดให้ แล้วเราก็นำแอคชั่นมาประกอบกันเป็นแมโคร และกำหนดเงื่อนไขการทำงานต่าง ๆ ในช่องเงื่อนไข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น