การเขียนโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลด้วยวีบีเอ
การใช้งานแมโคร
แมโคร คือกลุ่มของแอคชั่นหนึ่งกลุ่ม หรือมากกว่านั้น โดยที่แต่ละกลุ่มแสดงการปฏิบัติงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเปิดฟอร์ม หรือการพิมพ์รายงาน แมโคร สามารถช่วยเราฏิบัติงานง่าย ๆ โดยอัตโนมัติตัวอย่าง เช่น เราสามารถปฏิบัติงานแมโครที่พิมพ์รายงาน เมื่อผู้ใช้คลิกที่ Command Buttonแมโครสามารถเป็นแมโครเดียวที่ประกอบด้วยแอคชั่นต่อเนื่อง หรือสามารถเป็นกลุ่มแมโคร นอกจากนี้เรายังสามารถใช้นิพจน์เงื่อนไขในการตัดสินว่า ในบางกรณีแอคชั่นจะเกิดขึ้นเมื่อแมโครทำงานหรือไม่
โครงสร้าง และการทำงานของแมโครจะแตกต่างจากการเขียนโปรแกรมที่พัฒนาจาก VBA เนื่องจากการทำงานของแมโครจะทำงานตามลำดับขั้น ตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขึ้นสุดท้ายตามลำดับ จะไม่มีการกระโดดไปทำงานใน Routine ใด ๆ ก่อน ซึ่งเป็นผลให้แมโครเหมาะกับโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก และมีการทำงานที่ไม่ซับซ้อนนัก แต่อย่างไรก็ดี แมโครสามารถช่วยสร้างแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม ให้ยุ่งยาก
1. การสร้างแมโคร
1. ให้ทำการเปิดไฟล์ฐานข้อมูลข้อมูลทั่วไป.MDB ขึ้นมาซึ่งเป้นไฟล์ฐานข้อมูลที่สร้างจากบทที่แล้วเลือกที่มุมมอง2. คลิกเลือกที่ไอคอน
3. จะปรากฏจอภาพมุมมองออกแบบของแมโครพร้อมกับเมนู และทูลบาร์ของแมโคร ดังรูป
จากรูปจะสังเกตเห็นว่าในมุมมองออกแบบของแมโครประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
แอคชั่น ใช้สำหรับกำหนดคำสั่งต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามที่เราต้องการ โดยในแมโครหนึ่ง ๆ สามารถกำหนดได้หลายคำสั่ง เพื่รวมเป็นหนึ่งแมโคร โดยแมโครจะทำงานตามลำดับขึ้นทีละคำสั่งตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย
คำอธิบาย ใช้สำหรับอธิบายคำสั่งต่าง ๆ ที่เรากำหนดไปเพื่อความเข้าใจของผู้เขียนโปรแกรมเอง
อาร์กิวเมนต์แอคชั่น ใช้ในการกำหนดค่าต่าง ๆ ที่แอคชั่นนั้น ๆ ต้องการในกากรทำงาน
2. ทำการเลือกแอคชั่นที่ต้องการ โดยให้ทดลองเลือกที่แอคชั่น OpenForm หลังจากที่เลือกแอคชั่นแล้วจะสังเกตเห็นว่าในส่วนของอาร์กิวเมนต์แอคชั่นจะปรากฏขึ้นมาดังรูป
3. อาร์กิวเมนต์แอคชั่นที่ปรากฏขึ้นจะประกอบด้วยค่าต่าง ๆ ที่แอคชั่นนั้น ๆ ต้องการในการทำงาน เช่น เมื่อเราเลือกแอคชั่น OpenForm ก็ต้องกำหนดค่าอาร์กิวเมนต์แอคชั่นให้แมโครรู้ว่าต้องการ OpenForm อะไร อย่างไร ซึ่งให้เรากำหนดค่าของอาร์กิวเมนต์แอคชั่นดังรูป
แอคชั่น ใช้สำหรับกำหนดคำสั่งต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามที่เราต้องการ โดยในแมโครหนึ่ง ๆ สามารถกำหนดได้หลายคำสั่ง เพื่รวมเป็นหนึ่งแมโคร โดยแมโครจะทำงานตามลำดับขึ้นทีละคำสั่งตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย
คำอธิบาย ใช้สำหรับอธิบายคำสั่งต่าง ๆ ที่เรากำหนดไปเพื่อความเข้าใจของผู้เขียนโปรแกรมเอง
อาร์กิวเมนต์แอคชั่น ใช้ในการกำหนดค่าต่าง ๆ ที่แอคชั่นนั้น ๆ ต้องการในกากรทำงาน
2. การกำหนดแอคชั่นให้กับแมโคร
1. เมื่อต้องการกำหนดแอคชั่นให้กับแมโคร ให้ทำการเลือกในส่วนของแอคชั่นในมุมมุงออกแบบดังรูป2. ทำการเลือกแอคชั่นที่ต้องการ โดยให้ทดลองเลือกที่แอคชั่น OpenForm หลังจากที่เลือกแอคชั่นแล้วจะสังเกตเห็นว่าในส่วนของอาร์กิวเมนต์แอคชั่นจะปรากฏขึ้นมาดังรูป
จากรูปจะเป็นการกำหนดค่าอาร์กิวเมนต์แอคชั่นให้ทำคำสั่งดังนี้
เปิดฟอร์มชื่อ Form1
ในมุมมอง Form
โหมดข้อมูล Read Only
โหมดหน้าต่าง Noral
4. เมื่อทำการกำหนดค่าต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการบันทึกแมโคร โดยการคลิกที่ปุ่ม ในทูลบาร์และตั้งชื่อเป็น Openform หลังจากนั้นคลิกปุ่ม5. เมื่อทำการบันทึกเรียบร้อยแล้วให้ทำการ Run แมโคร โดยการคลิกที่ปุ่ม ในทูลบาร์
6. จะปรากฏฟอร์มชื่อ Form company ขึ้นมาทันที
2.1 รายละเอียดของแอคชั่นแต่ละประเภทที่จำเป็น
แมโคร ของ Access 2003 ได้แบ่งเป็นหลายประเภทดังนี้
1. การเปิด – ปิด เพจ, ฟอร์ม, โมดูล, แบบสอบถาม, รายงาน, ตาราง
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
OpenDataAccessPage
|
เปิดเพจที่กำหนด สามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
|
OpenForm
|
เปิดฟอร์มที่กำหนด
สามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
|
OpenModule
|
เปิดโมดูลที่กำหนด
|
OpenQuery
|
เปิดแบบสอบถามที่กำหนด สามารถกำหนดมุมมอง และโหมดข้อมูลได้
|
OpenReport
|
เปิดรายงานที่กำหนด และสามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
|
OpenTable
|
เปิดตารางที่กำหนด และสามารถเลือกมุมมองในการเปิดได้
|
Close
|
ใช้ปิดหน้าต่างที่กำลังทำงานอยู่หรือหน้าต่างที่กำหนดจาก
อาร์กิวเมนต์แอคชั่น
|
2. การเรียกใช้งาน และหยุดการทำงานของแมโคร
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
RunMacro
|
ใช้ในการเรียก Run แมโครที่ต้องการโดยเมื่อ Run แมโคร
ที่กำหนดเสร็จแล้วจะกลับมาทำแมโครในลำดับต่อไป
|
StopMacro
|
ใช้ในการหยุดแมโครที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้น
|
StopAllMacro
|
หยุดการทำงานของแมโครทั้งหมด
|
3. การค้นหาข้อมูล
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
FindNext
|
ใช้ในการค้นหาเรคคอร์ดถัดไปจากเรคคอร์ดแรก
|
FindRecord
|
ใช้ในการค้นหาเรคคอร์ด
|
GoToRecord
|
ใช้ในการกระโดดไปยังเรคคอร์ดที่ต้องการ
ซึ่งตำแหน่งที่ต้องการกระโดดไปในอาร์กิวเมนต์แอคชั่น
|
ApplyFilter
|
ใช้ในการแสดงข้อมูลตามฟิลด์เตอร์ที่กำหนด
|
4. การควบคุมการแสดงผลทางหน้าจอ
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
Beep
|
ใช้ส่งเสียงเตือนผู้ใช้ในกรณีที่ต้องการเตือนด้วยเหตุผลต่าง
ๆ
|
GotoControl
|
ให้โฟกัสไปยังคอนโทรลที่เลือก
|
GotoPage
|
ไปยังหน้าจอที่กำหนด
|
Hourglass
|
ให้แสดง
mouse
pointer เป็นรูปนาฬิกาทรายในขณะที่กำลัง
Run แมโคร
|
MsgBox
|
แสดงไดอะล็อกบ็อกซ์ตามข้อความที่กำหนด
|
Maximize
|
ขยายหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ให้เต็มจอ
|
Minimize
|
ย่อหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ให้เต็มจอ
|
MoveSize
|
กำหนดขนาดของหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
|
Restore
|
ทำให้หน้าต่างที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันมีขนาดเท่าเดิม
|
ShowAllRecords
|
ให้แสดงเรคคอร์ดทั้งหมด
|
ShowToolbar
|
ให้แสดงทูลบาร์ หรือซ่อนทูลบาร์ที่ต้องการ
|
5. การนำเข้าข้อมูลจากภายนอก และส่งออก
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
TransferDatabase
|
ใช้ในการนำเข้าข้อมูลจากภายนอก
และส่งออกสู่ภายนอกเช่น FoxPro
|
TransferSpreadsheet
|
ใช้ในการนำเข้าและส่งออกฐานข้อมูลในรูปแบบไฟล์ของโปรแกรมอื่น
ๆ
|
TransferText
|
ใช้ในการนำเข้า และส่งออกข้อมูลในรูปแบบไฟล์ที่กำหนด
|
6. การใช้งานอื่น ๆ
แอคชั่น
|
คำอธิบาย
|
Rename
|
ใช้เปลี่ยนชื่อ Object
ในฐานข้อมูลที่ใช้อยู่
|
CopyObject
|
ใช้ทำสำเนา Object
ที่ต้องการในฐานข้อมูลเดิม หรือฐานข้อมูลอื่น
|
DeleteObject
|
ใช้ลบ Object ที่ต้องการในฐานข้อมูลเดิม หรือฐานข้อมูลอื่น
|
RunApp
|
ใช้ในการเรียกใช้งาน แอพลิเคชั่นอื่น ๆ เช่น Calculator,
Paintbrush เป็นต้น
|
PrintOut
|
ใช้ในการสั่งพิมพ์ ตาราง, รายงาน, แบบสอบถาม, หรือฟอร์มซึ่งสามารถกำหนดช่วย หรือหน้าที่ต้องการพิมพ์ได้
|
OutputTo
|
ใช้ในการส่ง ตาราง, รายงาน, แบบสอบถาม, ฟอร์ม, เพจ, หรือโมดูล ออกภายนอกในรูปแบบของไฟล์ต่าง ๆ
ซึ่งกำหนดรูปแบบของไฟล์ได้ที่อาร์กิวเมนต์แอคชั่น
|
AddMenu
|
ใช้ในการทำเมนูให้แมโคร
|
Quit
|
ออกจากโปรแกรม Access
2003
|
3. การกำหนดเงื่อนไข (Condition) ของแมโคร
การกำหนดแอคชั่นขึ้นในแมโครในแต่ละครั้ง ในบางครั้งจำเป็นต้องมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อประกอบการทำงานของแอคชั่นนั้น ๆ ให้สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งในการกำหนดเงื่อนไข หรือ Condition สามารถทำได้ดังนี้
สมมุติว่าเราต้องการสร้างแมโครที่ใช้ในการเปิดฟอร์ม Form Company ขึ้นมาใช้งานโดยมีเงือนไขว่าผู้ใช้ต้องป้อนรหัสทีกำหนดให้ถูกต้องจึงจะสามารถใช้งานได้ สามารถทำได้ดังนี้
1. สร้างแมโครใหม่ขึ้นมา แล้วคลิกที่ปุ่ม บนทูลบาร์จะปรากกฎส่วนของเงื่อนไขออกมาในมุมมองออกแบบของการสร้างแมโคร
2. คลิกที่บรรทัดแรกเงื่อนไข แล้วตั้งเงือนไขดังนี้ InputBox (“กรุณาป้อนรหัส”) <> “220072” หรือเพื่อวามสะดวกในการพิมพ์เงื่อนไขให้กดปุ่ม Shift + F2 จะปรากฏหน้าต่างในการตั้งเงื่อนไขดังนี้
3. หลังจากนั้นคลิกปุ่มซึ่งเงือนไขนี้หมายความว่า รหัสที่ต้องการคือ 220072
4. ทำการเลือกแอคชั่น MsgBox แล้วกำหนดค่าในอาร์กิวเมนต์แอคชั่นดังนี้
5. พิมพ์ “…” ลงในเงื่อนไขและกำหนดแอคชั่น StopMacro ในบรรทัดถัดไปดังนี้
6. เลือกแอคชั่น OpenForm ในบรรทัดถัดไปแล้วกำหนดค่าในอาร์?กิวเมนต์แอคชั่นดังนี้
7. ทำการบันทึก แมโครเป็นชื่อ Open Form_by_Macro
8. ทำการ Run โปรแกรมจะปรากฏจอภาพดังนี้
9. ถ้าป้อนรหัสผิด หรือมาป้อนรหัสจะปรากฏดังนี้
10. ทำการ Run โปรแกรมใหม่อีกครั้งแล้วป้อนรหัสที่ถูกต้อง คือ 220072 โปรแกรมก็จะทำการเปิดฟอร์ม Form company โดยอัตโนมัติดังรูป
ตัวอย่างของเงือนไขแมโคร
ใช้นิพจน์นี้
|
เพื่อทำแอคชั่นถ้า
|
[City]=”Paris” Paris
DCount(“[OrderlD]”,”Order”)>35
|
Paris
เป็นค่าของ City ในเขตข้อมูลบนฟอร์ม
ที่แมโครถูกเรียกใช้มีรายการ 35 รายการ
หรือมากกว่าในเขตข้อมูล OrderID ของตาราง Orders
|
DCount(“*”,”Order
Details”,
“[OrderID]=Forms![Orders]!
[OrderID]”)>3
|
มีรายการมากกว่า
3 รายการในตาราง Order
Details ที่มีเขตข้อมูล OrderIDของตางรางตรงกับเขต
ข้อมูล OrderID บนฟอร์ม Orders
|
[ShippedDate]
Between
#2-Feb-1995#And
#2-Mar-1995#
|
ค่าของเขตข้อมูล
ShippedDate
บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้ที่ไม่ใช่ค่าก่อน 2-Feb-1995 และไม่ใช่ค่าหลังจาก 2-Mar-1995
|
Forms![Products]!UnitslnStock]<5
|
ค่าของเขตข้อมูล
UnitsInStock
บนฟอร์ม Products ที่มีค่าน้อยกว่า 5
|
IsNull([FidrstName])
|
ค่า
FirstName
บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้เป็น Null นิพจน์นี้จะเหมือนกับ
[FirstName] Is Null
|
[Country]=”UK”And
Forms!
[Sales
Totals]![TotalOrds]>100
|
ค่าในเขตข้อมูล
Country
บนฟอร์ม ที่แมโครถูกเรียกใช้ เป็น UK และค่าของเขตข้อมูล
TotalOrds บนฟอร์ม Sales Totals มากกว่า
100
|
[Country]In
(“France”,”Italy”,”Spain”)
And
Len([PostalCode])<>5
|
ค่าในเขตข้อมูล
Country
บนฟอร์มที่แมโครถูกเรียกใช้เป็น France,Italy หรือ Spain และรหัสไปรษณีย์มีความยาวไม่เกิน 5
อักขระ
|
MsgBox(“Confirm
changes?”,1)=
|
คุณคลิก
ตกลง ในกล่องโต้ตอบที่ฟังก์ชั่น MsgBox แสดง ถ้าคุณคลิก ยกเลิก
ในกล่องโต้ตอบ Microsoft Access จะเลิกทำแอคชั่นนั้น
|
4.การเขียนโปรแกรมใช้งานจริงกับแมโคร
ใน Microsoft Access เราสามารถทำงานมากมายให้สำเร็จได้ด้วยการใช้ แมโคร หรือ Visual Basic ดังนั้นในงานเดียวกันจึงต้องพิจารณาว่าจะเลือกใช้แมโครหรือว่า Visual Basic ซึ่ง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการจะทำ
แมโครเป็นวิธีที่ง่ายในการดูแลรายละเอียดง่าย ๆ เช่น การเปิดและปิดฟอร์ม การแสดง และซ่อนแถบเครื่องมือ และการเรียกใช้รายงาน เราสามารถผูกเข้าด้วยกันกับตาราง แบบสอบถาม ฟอร์ม รายงาน ที่เราสร้าง ขึ้นได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว
เนื่องจากมีไวยากรณ์เล็กน้อยที่ต้องจดจำ นอกจากความง่ายในการใช้งานที่แมโครมีให้แล้ว เราต้องใช้แมโครเพื่อการทำการกำหนดคีย์ หรือการปฏิบัติแอคชั่นต่าง ๆ ให้สำเร็จเมื่อเปิดฐานข้อมูลครั้งแรก เช่น การเปิดฟอร์ม หรือ Run แมโครที่ต้องกา
การทำการกำหนดคีย์
เราสามารถกำหนด แอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นให้กับแป้นพิเศษ หรือแป้นร่วมด้วยการสร้างกลุ่ม แมโคร AutoKeys ได้เมื่อใดที่คุณกดแป้น หรือแป้นร่วม Microsoft Access จะปฏิบัติแอคชั่นตามที่เรากำหนดได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. ในหน้าต่างฐานข้อมูลในมุมมองแมโครคลิกปุ่ม
2. ในมุมมองการออกแบบแมโคร ให้คลิกที่ชื่อแมโครแถบเครื่องมือ
3. ในคอลัมน์ ชื่อแมโคร พิมพ์แป้น หรือแป้นร่วมที่ต้องการกำหนดแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่น สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแป้นร่วมที่เราสามารถใช้ในการกำหนดแป้นได้มีดังนี้
ตารางแสดงแป้นพิมพ์พร้อมกัน ซึ่งใช้สร้างการกำหนดแป้นพิมพ์ในกลุ่มแมโคร AutoKeys
ไวยากรณ์ของ SendKeys
|
การกดแป้นพิมพ์พร้อมกัน
|
^A
หรือ^4
|
CTRL+อักษรใด ๆหรือแป้นตัวเลข
|
{F1}
|
แป้นฟังก์ชั่นใด
ๆ
|
^{F1}
|
CTRL+
เป็นฟังก์ชั่นใด ๆ
|
+{F1}
|
SHIFT+
เป็นฟังก์ชั่นใด ๆ
|
{INSERT}
|
INS
|
^{INSERT}
|
CTRL+INS
|
+{INSERT}
|
SHIFT+INS
|
{DELETE}
หรือ {DEL}
|
DEL
|
^{DELETE}
หรือ ^{DEL}
|
CTRL+DEL
|
+{DELETE}
หรือ +{DEL}
|
SHIFT+DEL
|
4. เราสามารถเพิ่มแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นที่คุณต้องการให้แป้น หรือแป้นร่วมปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น เราสามารถเพิ่มแอคชั่น OpenTable ที่เรียกใช้ตาราง Company เมื่อกด CTRL+T ได้
** ทำขั้นตอน 3และ4 ซ้ำสำหรับการกำหนดแป้นใด ๆ ที่เราต้องการทำ
5. บันทึกกลุ่มแมโครด้วยชื่อ AutoKeys
การกำหนดแป้นใหม่จะมีผลทันทีเมื่อเราบันทึกกลุ่มแมโคร และทุกครั้งที่เปิด ฐานข้อมูล หลังจากนั้นทดลองเปิดหน้าต่างฐานข้อมูล ในมุมมองใด ๆ แล้วทำการกดปุ่ม CTRL+T โปรแกรมจะทำการเปิดตาราง Company ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ ถ้าเรากำหนดชุดของแอคชั่นให้กับแป้นร่วมที่ถูกใช้อยู่แล้วโดย Access (ตัวอย่าง เช่น CTRL+C เป็นแป้นร่วมสำหรับคัดลอก) แอคชั่นที่คุณกำหนดแป้นร่วมนี้จะแทนที่การกำหนดแป้นของ Access
การดำเนินการแอคชั่นเมื่อฐานข้อมูลเปิดขึ้นมาครั้งแรก
เราสามารถใช้แมโครพิเศษที่ชื่อ AutoExec เพื่อดำเนินงานแอคชั่น หรือชุดของแอคชั่นเมื่อเปิดฐานข้อมูลเป็นครั้งแรก Microsoft Access จะหาแมโครที่มีชื่อนี้ และถ้าหากพบแมโครนี้จะถูกเรียกใช้โดยอัตโนมัติ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. ในหน้าต่างฐานข้อมูลในมุมมองแมโครคลิกสร้างแมโครขึ้นมาใหม่ และกำหนดแอคชั่นดังนี้
2. บันทึกแมโครด้วยชื่อ AutoExec
3. ในครั้งต่อไปที่เราทำการเปิดฐานข้อมูล Access จะเรียกใช้แมโครนี้โดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ ถ้าไม่ต้องการเรียกใช้แมโคร AutoExec เมื่อคุณเปิดฐานข้อมูล ให้กดแป้น SHIFT ค้างไว้ เมื่อเปิดฐานข้อมูล และยังสามารถควบคุมการเริ่มต้นของฐานข้อมูล หรือโปรแกรมประยุกต์โดยการตั้งค่าตัวเลือกในเมนู เครื่องมือ=>เริ่มต้น
5.การเปลี่ยน Macro ให้เป็น VBA Code
เนื่องจาก แมโคร (Macro) เป็นชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมประเภทหนึ่งที่ถูก พัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกขึ้นใน Microsoft Access ดังนั้นแมโครจึงเป็นเหมือนโปรแกรมย่อย ๆ หรือฟังก์ชั่น ๆ หนึ่งที่พร้อมจะถูกเรียกใช้งานได้ทันที่ต้องการ ดังนั้นในแอคชั่นใด ๆ ของแมโครจึงประกอบด้วย Code ต่าง ๆ ซึ่งนำมาเขียนรวมกันจนเป็นแอคชั่นต่าง ๆ ในแมโครและ Microsoft Access ก็มีวิธีแปลงแมโครเป็น VBA Code โดย VBA Code ที่ได้ก็จะมีผลการทำงานของ Code เช่นเดียวกับ แมโคร หรือแอคชั่นนั้น ๆ โดยวิธีการแปลงแมโครเป็น VBA Code นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1.
1. เปิดแมโครชื่อ OpenForm จากหัวข้อที่แล้วขึ้นมา หรือจากที่อื่นก็ได้ เสร็จแล้วเลือกที่เมนู แฟ้ม > บันทึกแฟ้มเป็น จะได้ดังนี้หน้าต่างของบันทึกเป็นขึ้นมา ดังรูป
2. ให้ทำการเลือกเป็นโมดูล
3. คลิกที่ปุ่มตกลง ดังรูป
4. จะขึ้นหน้าต่าง แปลงแมโคร :Openform_by-Macro ให้คลิกที่ปุ่ม
5. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโครเป็น Visual Basic ซึ่งจะบอกว่าการแปลงเสร็จเรียบร้อยให้คลิกที่ปุ่ม
6. ที่มุมมองฐานข้อมูลคลิกที่มุมมอง จะปรากฏโมดูลขึ้นมาชื่อว่า “แมโครที่ถูกแปลง Openform”
7. จะปรากฏจอภาพ ดังนี้
วิธีที่ 2.
1. เปิดแมฌครชื่อ Openform จากหัวข้อที่แล้วขึ้นมาหรือจากที่อื่นก็ได้ เสร็จแล้วเลือกที่เมนูเครื่องมือ > แมโคร>แปลงแมโครเป็น Visual Basic
2. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโคร :Openform ให้คลิกที่ปุ่ม
3. จะขึ้นหน้าต่างแปลงแมโครเป็น Visual Basic ซึ่งจะบอกว่าการแปลงเสร็จเรียบร้อย ให้คลิกที่ปุ่ม
4. จะปรากฏจอภาพดังนี้
5. ที่มุมมองฐานข้อมูลคลิกที่มุมมอง จะปรากฏโมดูลขึ้นมาชื่อว่า “แมโครที่ถูกแปลง Openform”
สรุปแล้วแมโครจึงเป็นเหมือนกับโปรแกรมเล็ก ๆ โปรแกรมหนึ่งซึ่ง Code ของ โปรแกรม ในคำสั่งต่าง ๆ นั้นถูกแยกไว้ในแอคชั่นต่าง ๆ ที่กำหนดให้ แล้วเราก็นำแอคชั่นมาประกอบกันเป็นแมโคร และกำหนดเงื่อนไขการทำงานต่าง ๆ ในช่องเงื่อนไข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น